รีวิวงานหมั้น 5 คนสุดอบอุ่น ปรับเล็กกระชับ รับ COVID19 @ Park Hyatt Bangkok

Park Hyatt Bangkok สถานที่แต่งงานหรูมีสไตล์ ตอบโจทย์ได้ครบครัน

       ต้องบอกก่อนว่าพิธีหมั้นในวันที่ 8 สิงหาคมที่ผ่านมา อันที่จริงเราวางไว้เป็นงานหมั้นเช้าเลี้ยงฉลองบ่ายครบจบในวันเดียว แต่พอสถานการณ์ COVID19 ยังไม่มีทีท่าจะดีขึ้น จึงต้องเปลี่ยนแผนกระทันหัน ก่อนฤกษ์จัดงานเพียงหนึ่งเดือน โดยปรับให้เหลือแค่งานหมั้น ส่วนพิธีฉลองค่อยว่ากัน นั่นจึงเป็นที่มาของความโกลาหลนิดหน่อยค่ะ(หัวเราะ)

       ส่วนที่เลือก Park Hyatt Bangkok(พาร์ค ไฮแอท กรุงเทพ) นั้นเกิดจากหลายปัจจัย ไม่ว่าจะเป็นการตกแต่งของโรงแรมที่สวย หรู โมเดิร์น ทันสมัย มีโลเคชั่นที่ดี ตั้งอยู่ใจกลางเมือง เดินทางสะดวกสบาย อีกทั้งราคาก็ไม่แพงเกินไป ตอบโจทย์งบประมาณที่เราตั้งไว้ โดยเราได้ที่ดีๆ แบบนี้มาจากการเสิร์ชหาคอนแท็คโรงแรมจากในเว็บ SabuyWedding ค่ะ เราชอบเว็บนี้เพราะให้ข้อมูลเกี่ยวกับสถานที่จัดงานแต่งงานที่เป็นประโยชน์มากๆ

ทุกวิกฤติย่อมมีโอกาสและการมองเห็นทางเลือกใหม่

       ด้วยข้อจำกัดของสถานการณ์โรคระบาด ทำให้เราได้รับผลกระทบเหมือนกัน จากตอนแรกแพลนไว้เป็นงานใหญ่เลย พอมีการเปลี่ยนแผนงานและคุยกันว่าจะจัดงานหมั้นอย่างเดียวจึงต้องปรับหลายๆ อย่าง ทั้งที่จ่ายมัดจำและเตรียมงานทุกอย่างเสร็จหมดแล้ว จากที่เลือกห้องบอลรูมไว้ก็ต้องเปลี่ยนให้เหมาะสำหรับ 5 คน จนได้เป็นห้องพัก Diploma Suite ชั้น 26 ที่รองรับการจัดพิธีสวมแหวนและมอบสินสอดได้อย่างลงตัว นอกจากนี้ยังต้องปรับโทนสีการตกแต่งใหม่ จากธีมสีพาสเทลเป็นเน้นโทนสีสว่างอย่าง ขาว น้ำตาล ทอง เพื่อไม่ให้โดดไปจากสีการตกแต่งของห้องเดิม แล้วยังเหมาะกับงานที่มีแต่ผู้ใหญ่และพิธีมงคลด้วย 

       ในส่วนการตกแต่งมีไม่มากเลยค่ะ ไม่มีโลโก้ชื่อบ่าวสาว ไม่มี Backdrop ใดๆ มีเพียงแจกันดอกไม้ประดับและอาศัยภาพศิลปะกับเฟอร์นิเจอร์ในห้องช่วยขับบรรยากาศให้ดูมีดีเทล ไม่โล่งเกินไป ทั้งยังสามารถสร้างความสวยแบบเรียบง่าย ไม่เว่อร์วังได้ค่ะ

แค่ปรับตัวตามสถานการณ์ ก็จัดงานแต่งได้

       ส่วนตัวคิดว่าการจัดงานแต่งในยุค COVID19 คือ ความท้าทายของบ่าวสาวตรงที่ว่า เราจะจัดการและรับมือกับมันอย่างไร อย่างกรณีของเรามีความต้องการแน่นอนว่าจะไม่เลื่อนฤกษ์เดิมที่จะจัดวันที่ 8 สิงหาคม เพราะเจ้าบ่าวเป็นครอบครัวคนจีนและมีความเชื่อเรื่องฤกษ์พอสมควร จึงแก้ไขโดยการจัดงานแบบมินิมากจริงๆ ค่ะ มีแต่คนในครอบครัว 5 คนเท่านั้น ประกอบด้วย บ่าวสาว คุณพ่อคุณแม่เจ้าบ่าวและคุณแม่เจ้าสาวค่ะ

       ส่วนระหว่างทำพิธีก็ยังคงเข้มงวดเรื่องมาตรการป้องกัน COVID19 อยู่นะคะ เช่น จังหวะไหนที่ต้องถ่ายภาพ ถึงถอดแมสก์และเฟสชิลด์ออก พอถ่ายเสร็จใส่กลับทันที ทั้งนี้เราพยายามใช้เวลาอยู่ในห้องให้น้อยที่สุดเพื่อความปลอดภัย เสร็จพิธีแล้วก็เน้นเก็บภาพบรรยากาศครอบครัวตามจุดต่างๆ ของโรงแรมมากกว่า นอกจากนี้เราก็พบปัญหาอื่นๆ บ้าง อย่างเรื่องการตัดผมทำเล็บที่เราไม่สามารถไปทำที่ร้านได้ ก็เปลี่ยนเป็นเรียกช่างมาทำส่วนตัวที่บ้านแทน มันก็ดีไปอีกแบบนะคะ

จัดงานเล็กเรียบง่าย ไม่วุ่นวาย ปลอดภัยจาก COVID19

       เราว่าข้อดีของการจัดงานเล็กคือไม่มีค่าใช้จ่ายสิ้นเปลือง ส่วนพิธีการก็ไม่วุ่นวาย งานวันนั้นเต็มไปด้วยความเรียบง่าย แต่สบายใจมาก เราสามารถคุยเล่น หยอกล้อกันได้ โดยไม่ต้องทางการอะไรมากมาย เพราะพิธีหมั้นใช้เวลาแทบไม่ถึงชั่วโมงเลยค่ะ เริ่มจากฤกษ์สวมแหวนเวลา 09.00 น. จากนั้นก็มอบสินสอด เสร็จพิธีนี้ก็จบแล้วค่ะ เราไม่มีการรับประทานอาหารร่วมกันด้วยนะคะ(หัวเราะ)

อบอวลไปด้วยความน่ารัก อบอุ่น และความภูมิใจที่ทำเองแล้วราบรื่น

       พอนึกย้อนกลับไปวันงาน เราชอบและประทับใจในความน่ารัก เรียบง่าย มันสบายใจอย่างบอกไม่ถูก อีกอย่างก็ภูมิใจในงานนี้มาก เพราะเราเตรียมงานเองหมดเลย ทั้งๆ ที่มีเวลาน้อยมาก เราอาศัยดู Reference จากอินเทอร์เน็ต ประกอบกับดูผลงานเก่าๆ ที่โรงแรมเคยจัดมา เพื่อให้ภาพออกมาดูสวยสมเป็นงานมงคลที่สุดค่ะ 

       อีกเรื่องคือเราอยากขอบคุณทางโรงแรมและซัพพลายเออร์ ทุกทีมที่เราช่วยกันเลือกมานั้นมีความเป็นมืออาชีพ พร้อมยืดหยุ่นไปตามสถานการณ์ แม้ว่าจะต้องเลื่อนงานเลี้ยงฉลองออกไปอย่างไม่มีกำหนด แต่เขาก็เข้าใจได้ไม่มีปัญหา ทุกเจ้าไม่มีชาร์จค่าใช้จ่ายเพิ่ม ซึ่งเราคิดว่าโชคดีที่ได้ซัพพลายเออร์เต็มใจช่วยในยามวิกฤติแบบนี้ ช่วยลดความเครียดและทำให้เราสบายใจมากขึ้นค่ะ

แนะนำบ่าวสาว

เปลี่ยน Mindset แล้วทุกอย่างจะโอเค : เราเข้าใจว่าบ่าวสาวทุกคู่ก็อยากให้งานแต่งออกมา Perfect แต่เมื่ออยู่ท่ามกลางสถานการณ์นี้ สิ่งที่ทำได้คือเปลี่ยน Mindset มองมุมบวก แล้วจะเห็นจุดเริ่มต้นของการพัฒนาไอเดียใหม่ๆ เหมือนคู่เราที่พอจัดงานหมั้นแค่ 5 คน ก็พบว่ามันอบอุ่นดีเหมือนกัน ไม่วุ่นวาย ไม่เหนื่อยและประหยัดงบไปได้มากด้วยค่ะ

ยืดหยุ่นไปตามสถานการณ์ก็จัดงานแต่งได้ : การรู้จักยืดหยุ่นและปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์จะทำให้เราไม่เครียดจนเกินไป ขณะเดียวกันด้วยสถานการณ์ไม่ปกตินี้ การคุยและปรับความเข้าใจกับผู้ใหญ่เป็นส่วนที่ลดความกังวลได้ เพราะความจริงเราไม่สามารถทำให้ทุกคนถูกใจได้ แต่ควรใช้ความประนีประนอม พยายามอธิบายเหตุผลถึงสถานการณ์ในปัจจุบันให้เขาเข้าใจจะดีกว่าค่ะ

Photo : Snapbynowplin