รีวิวงานแต่งสไตล์แคมป์ปิ้ง จำลองภูเขา หิ่งห้อยและดวงดาว สวยสนุกมีสีสัน @ Hotel Nikko Bangkok

Hotel Nikko Bangkok สถานที่แต่งงานโลเคชั่นดี พื้นที่จัดงานพร้อม เพดานสูง

       ฝ้ายเลือกแต่งงานที่ Hotel Nikko Bangkok (โรงแรม นิกโก้ กรุงเทพฯ) เพราะพื้นที่โรงแรมตอบโจทย์การตกแต่ง เอื้ออำนวยต่อการจัดงานของฝ้ายได้มากกว่า เช่น มีเพดานสูงและประดับไฟระยิบระยับเสมือนยืนอยู่ท่ามกลางหมู่ดาว จึงคิดว่าจุดนี้สามารถนำมาสร้างลูกเล่นในงานได้เยอะ อีกทั้งอาหารยังมีรีวิวว่าอร่อยกันเยอะด้วยค่ะ

       โดยที่มาของการได้คอนแทคโรงแรมนิกโก้มาจากการไปเดินงาน SabuyWedding Festival ที่พารากอน ซึ่งนานมากแล้ว(หัวเราะ) ตอนนั้นยังไม่มีไอเดียจัดงานในหัวเลย แค่อยากรู้แพ็กเกจโรงแรมเฉยๆ จนเจอโรงแรมนี้ไปออกบูธ พอได้ดูรูปเบื้องต้นบวกกับคุยถูกใจ แม้ตอนแรกจะกังวลเล็กน้อยเพราะยังไม่มีเพื่อนหรือคนใกล้ชิดเคยจัดงาน แต่พอได้สำรวจสถานที่จริงก็ตัดสินใจลองเสี่ยงจัดดู แล้วพบว่ามันคุ้มค่ามากค่ะ

ส้มอิฐและเขียวมิ้นต์เข้ม คู่สีที่แมทช์ได้สวยเก๋ ดูสนุกและสดใส

       สำหรับงานนี้ฝ้ายเซ็ตจำนวนแขกไว้ที่ประมาณ 350 ท่าน ตอนแรกครอบครัวอยากให้จัดเลี้ยงแบบโต๊ะจีนทั้งหมดเลย แต่เนื่องด้วยสถานการณ์ช่วงนั้นยังไม่เอื้ออำนวยจึงอธิบายให้พวกท่านเข้าใจและหาข้อสรุปตรงกลางจนได้เป็นการจัดโต๊ะจีนเฉพาะแขกผู้ใหญ่ VIP ประมาณ 10 โต๊ะ แขกที่เหลือก็ยืน จัดเลี้ยงเมนูอาหารเป็นแบบ International Buffet แทนค่ะ

       ส่วนธีมสีตกแต่งเราเลือกเป็นสีส้มอิฐและเขียวมิ้นต์เข้ม เพราะความที่ชอบสีส้มเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว อีกทั้งยังไม่ชอบโทนสีที่หวานเท่าไหร่ บวกกับไอเดียตกแต่งอยากได้กลิ่นอายงานเฟสติวัลผสมผสานสไตล์แคมป์ปิ้ง ก่อกองไฟ ท่ามกลางหมู่ดาว สองสีนี้จึงช่วยเดินเรื่องได้ดี สามารถเป็นตัวแทนของสีท้องฟ้าและสียามพระอาทิตย์ตกได้ แต่ถ้าจะให้ความหมายที่ลึกซึ้งกว่านั้นสองสีนี้ยังสอดคล้องกับอาชีพที่ฝ้ายทำคือหมอฟันด้วยค่ะ เพราะสีเขียวมิ้นต์จะเป็นสีผ้ายางในการทำฟัน ส่วนสีส้มอิฐก็จะเป็นสีของอุปกรณ์เฉพาะทางคือสีวัสดุอุดคลองรากฟัน พอบอกเพื่อนๆ ถึงความหมายก็จะมีความตกใจเล็กน้อยค่ะ(หัวเราะ)

       นอกเหนือจากธีมสีที่ต้องการแล้ว ฝ้ายยังดึงสัญลักษณ์ต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับแคมป์ปิ้งมาออกแบบด้วย เช่น เต็นท์ ภูเขา ดวงดาว ให้มาอยู่ในงานผ่านการจินตนาการที่มีสีสัน ผสมผสานด้วยดอกไม้โทนสีใกล้เคียงกันเพื่อเพิ่มความมีชีวิตชีวา และยังมีแทรกรูปเราสองคนประดับตกแต่งลดหลั่นกันไปตามเชฟของภูเขาจำลองอีกด้วย 

       เท่านั้นยังไม่พอนะคะ ฝ้ายมีกิมมิคในงานที่ภูมิใจนำเสนออย่างกล่องไฟหิ่งห้อยที่เปรียบเสมือนเค้กในงาน จินตนาการให้เหมือนการก่อกองไฟใต้หมู่ดาวที่จะมีแต่คนรักมานั่งล้อมวงคุยกัน ซึ่งวัสดุเป็นกล่องอะคริลิคใสด้านในใส่ไฟหิ่งห้อย ตอนจังหวะที่นำมีดไปแตะเสมือนตัดเค้กจริง ไฟจะติดขึ้นสว่างไสว เป็นอะไรที่สวยมากค่ะ

พิธีการสบาย ปล่อยไปตามธรรมชาติ

       สำหรับพิธีฉลองนั้น ตามกำหนดการเริ่มงานประมาณ 18.00 น. ฝ้ายและเจ้าบ่าวจะมายืนรอต้อนรับแขกหน้า Backdrop ถ่ายภาพ ซึ่งก่อนที่แขกจะมาถ่ายรูปร่วมกัน เขาจะไปลงทะเบียนและได้ของชำร่วยเป็นพวงกุญแจตัวการ์ตูนเคลือบอะคริลิคที่ฝ้ายมีส่วนร่วมโดยการวาดตัวการ์ตูนบ่าวสาวด้านในอะคริลิกเองด้วยค่ะ

       ตรงจุด Backdrop ถ่ายภาพนั้นฝ้ายใช้เวลาถ่ายภาพร่วมกับแขกประมาณ 1 ชั่วโมงกว่าๆ ถึงเสร็จสิ้นและเตรียมเข้าสู่พิธีการด้านใน ระหว่างนี้มีการเปิดวีดีโอพรีเซนเทชั่นก่อนเปิดตัวบ่าวสาว เมื่อวีดีโอจบฝ้ายและเจ้าบ่าวจะเปิดตัวด้วยการเต้นสั้นๆ จากนั้นก็เดินขึ้นไปบนเวทีพร้อมเชิญประธาน 3 ท่านมากล่าวคำอวยพร เสร็จแล้วเราสองคนถึงเดินไปตรงกลางห้องเพื่อตัดเค้กจำลอง จากนั้นจะมีการนำเค้กจริงๆ มอบให้กับแขกผู้ใหญ่ ต่อมาถึงมีการสัมภาษณ์บ่าวสาวนิดหน่อยและโยนดอกไม้ก็เป็นอันเสร็จพิธีแล้วค่ะ

       อันที่จริงแล้วฝ้ายไม่เน้นพิธีการเป๊ะๆ นะ อยากให้งานสบายๆ มากกว่า โชคดีด้วยที่แม้วันนั้นจะมีประธานขึ้นมากล่าวถึง 3 ท่าน แต่ทุกท่านพูดไม่ยืดยาวและพูดกันเองแบบฟีลวัยรุ่น จึงทำให้พิธีการดูสบาย ไม่ทางการจนเกินไป และใช้เวลาช่วงพิธีการไม่ถึงชั่วโมงด้วยค่ะ

ทุกคนได้มีความสุข บ่าวสาวก็ตื้นตันและภูมิใจ

       ฝ้ายมีหลายอย่างที่ประทับใจมาก จริงๆ ก็ประทับใจตั้งแต่เตรียมงานแล้วนะคะ เพราะเราสองคนมีคีย์คอนเซ็ปต์คือ Memorable,Unique และ Playful อยากให้แขกที่มางานได้รับความสุข และรู้สึกอมยิ้มตลอดทั้งงาน ตลอดจนจดจำงานเราได้ เพราะต้องบอกเลยว่า ระหว่างการจัดงาน เตรียมงานนั้นจะมีความเหนื่อยซ่อนอยู่ แต่พองานจบลงแล้ว ผลลัพธ์ที่ได้คือครอบครัวและแขกทุกคนชื่นชม ชอบงานของเรามาก ถึงขั้นมีเพื่อนๆ มาขอคำปรึกษาการจัดงาน นั่นก็ถือว่าเป็นความสุขและความสำเร็จเล็กๆ อย่างหนึ่งแล้วค่ะ ท้ายที่สุดของการจัดงาน มันไม่ใช่แค่ความสุขของเราสองคน แต่มันเป็นความสุขของแขกและครอบครัวที่ทำให้เราภูมิใจค่ะ 

       แล้วฝ้ายยังประทับใจเจ้าบ่าวที่เขายอมทำตามใจต้องการ ช่วยสานฝันของเราให้เป็นจริง เช่น ตอนให้เต้น เขาน่ารักมากไม่มีอิดออดเลย สุดท้ายนี้ฝ้ายอยากขอบคุณทุกทีมงานที่ช่วยทำงานให้ออกมาประสบความสำเร็จ รวมถึงช่างภาพอย่างคุณฟิล์มที่ถ่ายภาพให้ออกมาได้สวย ถูกใจและเป็นธรรมชาติมาก ซึ่งก็ตรงกับที่เราคิดไว้ไม่ผิดเพี้ยนค่ะ

แนะนำบ่าวสาว

งานแต่งคืองานที่สื่อถึงตัวตน : เราต้องเข้าใจตัวเองก่อนว่าชอบงานสไตล์ไหน อยากจัดงานแบบใด จากนั้นก็ลงมือทำให้สอดคล้องกับเป้าหมาย เพราะหากเรามีสไตล์ที่ชัดเจน ก็จะได้งานที่สื่อถึงตัวตนเรามากที่สุด ที่สำคัญอย่าเอางานเราไปเปรียบเทียบกับงานคนอื่น จะงานเล็กงานใหญ่ไม่สำคัญ หากเริ่มต้นที่ตัวเราชอบ แค่นั้นก็แฮปปี้แล้วค่ะ

ตั้งธงไว้ให้ถึงเป้าหมาย : ถ้าเรามีธงรู้ว่าอยากได้งานแบบไหน ก็จะได้มุ่งหน้าเตรียมงานอย่างถูกทาง ไปได้รวดเร็ว ไม่งงและต้องปรับเปลี่ยนไปมา เสียเวลาค่ะ  

จัดลำดับความสำคัญของการเตรียมงานและการหาซัพพลายเออร์ : เป็นสิ่งสำคัญที่จำเป็นมาก ควรทำอันดับต้นๆ ตามมุมมองของเราคือการหาฤกษ์วันแต่งงาน เมื่อได้มาแล้ว ควรเช็คสถานที่ที่ชอบและหาช่างแต่งหน้าทำผม ตลอดจนช่างกล้องก่อน เพราะอย่าลืมว่า บ่าวสาวทุกคู่ย่อมต้องการฤกษ์ดีอยู่แล้ว ซึ่งฤกษ์ดีก็เป็นฤกษ์เดียวกันทั้งประเทศ ก็จะต้องแย่งกัน นั่นจึงรวมไปถึงซัพพลายเออร์ด้วย ฉะนั้นถ้าบ่าวสาวเลือกสิ่งที่แนะนำได้ครบก่อนก็ช่วยให้อุ่นใจ เพราะส่วนที่เหลือ เรายังทยอยหาภายหลังได้