Conrad Bangkok ห้องบอลรูมโอ่โถง รองรับแขกได้ถึง 600 คน มาพร้อมไฮไลท์จอ LED ไซส์ใหญ่พิเศษ
เนยกับเม (เจ้าบ่าว) จัดงานหมั้นไปแล้วเรียบร้อยค่ะ เราเลยมองหาโรงแรมที่ไว้จัดเฉพาะงานฉลอง และต้องรองรับแขกได้อย่างน้อย 500-600 คน ตอนหาโรงแรมก็ดูข้อมูลจาก SabuyWedding เพื่อเอามาเปรียบเทียบกัน สรุปเราชอบ Conrad Bangkok (โรงแรมคอนราด กรุงเทพ) ที่สุดค่ะ เพราะตอบโจทย์ทั้งงบประมาณและจำนวนแขก แถมมีจอ LED ที่อลังการมาก เพราะขนาดจอใหญ่เป็นพิเศษค่ะ อีกอย่างที่ชอบ คือ คุณปอ เซลล์ของโรงแรมที่คุยแล้วถูกใจ จนรู้สึกอยากจัดงานที่นี่มากขึ้นไปอีกค่ะ
ตกแต่งสวยโรแมนติก โดยมีกิมมิกจากภาพยนตร์ ‘James Bond’
เราสองคนมีความชอบที่แตกต่างกัน เนยชอบความมินิมอล ส่วนเมชอบสไตล์แกสบี้ ถ้าจะให้เอา 2 สไตล์นี้มารวมกันคงยาก เราเลยพยายามหาธีมที่ชอบกันทั้งสองฝ่าย แต่จะตามใจเจ้าบ่าวมากหน่อยค่ะ เลยใช้เป็นธีม ‘James Bond 007’ โดยเราไม่ได้ดึงธีมภาพยนตร์ออกมาทั้งหมด เพียงแต่ใช้ภาพจำอย่างลายวน ‘Gun Barrel’ ที่อยู่บนโปสเตอร์และเป็นฉากเปิดเรื่องที่เป็นเอกลักษณ์ มาตกแต่งตรงแบ็คดรอปถ่ายภาพ โดยยืนพื้นด้วยสีขาว สีเขียว ตามด้วยสีเหลืองมัสตาร์ดค่ะ
ส่วนอื่น ๆ เราพยายามให้คงความเรียบหรู อย่างแกลเลอรีด้านนอกก็ตกแต่งเป็นฉากขนาดใหญ่ ใช้ภาพบ่าวสาวหลากไซส์ ทั้งไวนิลแนวยาวและอัดรูปขนาด 4×6 แปะบอร์ดค่ะ เราตกแต่งดอกไม้และเสริมเทียนให้ดูโรแมนติกยิ่งขึ้นด้วย
ภายในห้องบอลรูม เราตกแต่งดอกไม้พร้อมไฟดวงกลมข้างเวที ที่มีการทำบันไดไล่ระดับค่ะ โดยความพิเศษของงานจริง ๆ อยู่ที่การออกแบบโมชั่นกราฟิกบนจอ LED ที่มีหลายฉากเลยค่ะ อย่างเช่นฉากกลิตเตอร์วิบวับโปรยลงมาในช่วงเปิดตัว ฉากกังหันลม และฉากพลุเฉลิมฉลอง แต่จะมีฉากหนึ่งที่เราใส่ใจเป็นพิเศษ โดยนำความชอบของทั้งเนย เม และคุณพ่อมารวมกัน เป็นฉากที่มีทั้งทะเล พระอาทิตย์ตก ภูเขา และน้ำตกค่ะ ส่วนช่วงอาฟเตอร์ปาร์ตี้ก็จะมีทั้งฉากนับถอยหลัง และฉากที่ลิงก์กับซีนหนัง James Bond 007 ค่ะ
งานฉลองสุดเก๋และปาร์ตี้สุดมันส์ พร้อมเซอร์ไพรส์จากเจ้าสาว
เราจัดงานฉลองโดยมีแขกกว่า 600 คน และทุกคนจะได้รับของชำร่วยเป็นเหรียญยี่สิบบาทของรัชกาลที่ 10 ค่ะ
พิธีการเริ่มด้วยการเปิดตัวบ่าวสาว ประธานกล่าวคำอวยพร ต่อด้วยเพื่อนบ่าวสาว และพี่ของเราสองคนรวม 6 ท่าน มาพูดอวยพรกัน จากนั้นเราจะเปิดวีดีโอแนะนำเรื่องราวความรักบ่าวสาวอีกครั้ง แล้วค่อยพูดความในใจต่อกันค่ะ
เมื่อสัมภาษณ์บ่าวสาวเสร็จแล้ว ก็ไปตัดเค้ก โยนดอกไม้ ตามด้วยเมโยนกล่องเหล้า แล้วก็เตรียมเข้าสู่อาฟเตอร์ปาร์ตี้ค่ะ
ไฮไลท์และกิมมิกของงานเราส่วนใหญ่อยู่ในช่วงอาฟเตอร์ปาร์ตี้ เราทำเสื้อยืดให้เพื่อนเจ้าสาวและเจ้าบ่าวใส่กันด้วยค่ะ หลังจากที่เราเปลี่ยนชุดแล้ว จะเปิดตัวด้วยฉากโมชั่นกราฟิกที่เป็นเวลานับถอยหลัง ต่อด้วยฉากเจมส์ บอนด์ ที่มีผู้ชายยืนอยู่ตรงกลางลายวนของ Gun Barrel ก็จะได้เวลาที่เราเดินเปิดตัวกันเข้ามาคนละทิศ เพื่อมาเจอกันตรงกลาง จากนั้นเมื่อไฟฟอลโลว์ส่องลงมาแล้วเราก็จูบกันค่ะ
ต่อมาเนยก็ไปเตรียมเซอร์ไพรส์ โดยเพื่อนมาพาเมไปยืนข้างหน้า เพื่อรอดูโชว์ที่เนยจะมาเต้นเพลงเมดเล่ย์ มีทั้งเพลงจากศิลปินที่เนยชอบอย่างโฟร์-มด และปิดท้ายด้วยเพลงเซ็กซี่ Ma Boy ของ SISTAR19 ค่ะ หลังจบโชว์นี้ เราสองคนถึงไปรินแชมเปญทาวเวอร์ แล้วก็สนุกสนานไปกับวงดนตรีสดและดีเจค่ะ
ในช่วงงานฉลอง เราจัดเลี้ยงอาหารแบบค็อกเทลและเพิ่มซุ้มอาหารของโรงแรม มีทั้งขาแฮม เนื้อวัว ปลาแซลมอน และข้าวมันไก่ แถมยังนำซุ้มข้างนอกเข้ามาเพิ่มด้วย อย่างเมนูกระเพาะปลาและซูชิ เพราะเราเข้าใจว่าแขกแต่ละท่านย่อมมีความชื่นชอบต่างกันค่ะ แต่ที่ได้ยินคนพูดถึงกันมากที่สุด เห็นจะเป็นเมนูเนื้อวัวและซูชิที่อร่อยมาก ๆ ค่ะ
งานที่เต็มไปด้วยรักและความภูมิใจ โดยมีเจ้าสาวเป็นแม่งานเอง
เนยไม่ได้ใช้เวดดิ้งแพลนเนอร์ค่ะ งานนี้จึงไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่เราต้องดูแลและจัดการงานที่มีแขกถึง 600 คน แม้จะเหนื่อยหนักในช่วงเตรียมงาน แต่พอได้เห็นผลลัพธ์ เราก็ดีใจที่แขกชมว่างานสวย อบอุ่น แถมได้กำลังใจจากเพื่อน ๆ เพียบ เรียกว่าเป็นความสุขและความภาคภูมิใจที่ทำให้เราหายเหนื่อย ที่ขาดไม่ได้คือมีเมคอยซัพพอร์ตและบอกขอบคุณเนยเสมอในการเป็นแม่งานครั้งนี้ค่ะ
เราประทับใจทีมงานทุกทีมเลยค่ะ ถ้าไม่ได้ทีมงานต่าง ๆ ช่วยเหลือกันขนาดนี้ก็คงแย่ ทุกคนเต็มที่กับเรามาก ๆ ค่ะ และเนยมองว่าทางโรงแรมก็สำคัญมากเหมือนกัน เราประทับใจตั้งแต่จอ LED ที่ทำให้งานเราสวยแบบที่วาดไว้ นอกจากนี้ยังมีคุณปอ เซลล์ของโรงแรมที่ใส่ใจ คอยเช็กและถามไถ่ตลอดว่าโอเคไหม ติดปัญหาตรงไหนหรือเปล่า หรืออย่างวันรุ่งขึ้นที่เราตื่นไปกินข้าวเช้าไม่ไหว เขาก็จัดแจงเรื่องอาหารเสิร์ฟให้ถึงห้องเลยค่ะ เราชอบในเรื่องการบริการของโรงแรมมาก ๆ อีกทั้งการได้ทุกอย่างตรงตามต้องการ เท่านี้ก็คือที่สุดแล้วค่ะ
คำแนะนำสำหรับบ่าว-สาว
ทำในสิ่งที่ตัวเองชอบ แล้วเราจะมีความสุข : เราสามารถรับฟังความเห็นคนอื่นได้ แต่ก็ต้องถามตัวเองด้วยว่า สุดท้ายแล้ว เราชอบแบบไหนมากกว่ากัน หากเราฟังคนอื่นมากไปหรือให้เขาตัดสินแทนเรา เมื่อถึงวันแต่งงานแล้วเราเจอบางสิ่งที่ไม่ถูกใจเพราะเชื่อคนอื่น เราอาจรู้สึกเสียดายภายหลังได้
ดู Reference ให้เยอะก่อนตัดสินใจจอง : หากบ่าวสาวไม่มีเวดดิ้งแพลนเนอร์ ยิ่งต้องหาข้อมูลและรีวิวให้เยอะที่สุดว่าเราชอบแบบไหน โดยเฉพาะทีมงานที่ต้องมีมัดจำล่วงหน้าก่อน เพราะหากเราไม่ได้ศึกษาให้ถี่ถ้วนและมัดจำเงินไปแล้ว พอมารู้ใจตัวเองว่าเราไม่ได้ชอบเจ้านี้ที่สุด เราจะเสียทั้งเงินและเวลา
Photographer : Take Photography