รีวิวงานแต่ง Modern Classic สวยดูดีในสีเอิร์ธโทน @Park Hyatt Bangkok

Park Hyatt Bangkok สถานที่จัดงานแต่งดีไซน์สวยหรู อยู่ใจกลางเมือง

       มีนกับปอ (เจ้าบ่าว) จัดงานหมั้นและเลี้ยงฉลองเที่ยงที่ Park Hyatt Bangkok (พาร์ค ไฮแอท กรุงเทพ) ค่ะ เพราะนอกจากจะตอบโจทย์เรื่องทำเลที่ตั้งอยู่ใจกลางเมือง และมีที่จอดรถเพียงพอแล้ว ส่วนตัวชอบโทนสีและการตกแต่งของโรงแรมที่ดูเรียบหรู ตรงกับสไตล์เราสองคนค่ะ ขนาดห้องบอลรูมก็สามารถรองรับจำนวนแขกราว 400 คนได้แบบไม่อึดอัดเกินไปด้วยค่ะ ที่สำคัญ ตอนสำรวจโรงแรมได้เจอคุณแนน เซลล์ของโรงแรมที่เราประทับใจ ทั้งพูดคุยกันถูกคอ ให้คำแนะนำดี และตอบคำถามเราได้ครบถ้วนค่ะ

คุมโทนงานแต่ง ด้วยสีสันเรียบหรู

       เราเลือกธีมสีของงานไปในทิศทางเดียวกันกับโรงแรมค่ะ คือ สีเอิร์ธโทน อย่างสีเบจ ครีม และน้ำตาล เพราะอยากให้ภาพรวมของการตกแต่งดูกลมกลืนไปกับสถานที่ เน้นแต่งน้อย แต่คงความทันสมัย อย่างโถงทางเดิน เราจะตั้งภาพบ่าวสาวไว้ตามจุดต่าง ๆ ของงาน และใช้วิธีเล่นสีของกรอบรูปภาพ เป็นสีดำบ้าง น้ำตาลบ้างค่ะ

       ส่วนตำแหน่งของแบ็คดรอปถ่ายภาพนั้น เป็นจุดที่โรงแรมตกแต่งโคมไฟพอดี เราอยากให้แบ็คดรอปสมมาตรกับโคมไฟ จึงใช้ฉากสีเบจ 2 ชิ้น ทั้งแบบโค้งและเรียบตั้งประกบกัน มีความสูงกว่ามาตรฐานราว 5 เมตร เลือกใช้ดอกไม้สีคุมโทน และยังเสริมแผ่นผ้าซีทรูตกแต่งสลับดอกไม้ยื่นออกมาจากฉาก เพื่อพรางช่องว่าง และช่วยให้มีดีไซน์ไปในตัวด้วยค่ะ 

       ด้านนอกยังเพิ่มกิมมิกตรงผนังทางลงบันได โดยยิงโปรเจคเตอร์เป็นชื่อบ่าวสาว เพราะอยากให้แขกเห็นชื่อเราอยู่ด้านนอก รวมทั้งเราอยากใช้พื้นที่ตรงนี้ไว้เป็นจุดรับตัวเจ้าสาวในงานหมั้นด้วยค่ะ เราอยากให้ภาพออกมาดูเรียบ ๆ ไม่ต้องมีดอกไม้มากมาย จึงเสริมด้วยโลโก้บ่าวสาวเข้ามาแทน และรู้สึกว่าทำให้งานดูเก๋ขึ้นด้วยค่ะ 

       ส่วนห้องบอลรูมจะใช้จัดทั้งงานหมั้นและงานฉลอง เพราะเรามีแขกผู้ใหญ่เยอะพอสมควร ไม่อยากให้ท่านต้องเดินหรือย้ายไป-มาบ่อย ๆ พอจัดในห้องเดียวกันจึงใช้ฉากเดิมได้เลย เราเลือกพื้นหลังสีขาว ซึ่งดูเหมาะกับพิธีทางการ ส่วนดอกไม้ใช้สีเดียวกับด้านนอก และเรายังเลือกดีไซน์ฉากเป็นแนวตั้ง เพราะอยากโชว์ผนังลายซี่ของโรงแรม ที่ส่วนตัวรู้สึกว่าสวยและดูเข้ากันกับฉากงานแต่งของเราค่ะ

       เรายังใส่ใจรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ ในงานด้วย เช่น ตั้งใจเลือกแบบเค้กแต่งงานที่ล้อไปกับผนังลายซี่ ๆ ของโรงแรม ดูทันสมัยและไม่จำเจเหมือนเค้กก้อนกลม ๆ ทั่วไปค่ะ ส่วนไฟก็จะเลือกแสงที่ดูซอฟต์เข้ากับงาน และไม่เอาแสงไฟแฉกค่ะ

พิธีสั้นและเรียบง่าย แต่สุขใจทุกฝ่าย

       สำหรับพิธีการงานหมั้น เราคุยกับทางครอบครัวตั้งแต่แรกเลยว่าจะไม่ทำพิธีแบบครบจัดเต็ม เพราะเวลาอันจำกัดที่เราต้องต่องานเลี้ยงฉลองเที่ยงด้วย ซึ่งท่านก็เข้าใจค่ะ ช่วงเช้าเรามีเตรียมอาหารให้แขกทานกันก่อนเริ่มงานหมั้น โดยเน้นเมนูทานง่ายค่ะ เช่น แซนด์วิชกุ้งล็อบสเตอร์ ครัวซองต์แฮมชีส ติ่มซำ และโจ๊กหมูไข่ออนเซ็น ส่วนของหวานเป็นเค้กแครอทค่ะ
       หลังจากนั้นครอบครัวเจ้าบ่าวจะแห่ขันหมากเดินลงมาจากบันได ผ่านประตูเงินประตูทองแล้วไปเจรจาสู่ขอ ก่อนออกมารับตัวมีนตรงชานพักบันไดค่ะ จากนั้นก็ทำพิธีมอบสินสอด สวมแหวน และยกน้ำชา ปิดท้ายด้วยถ่ายรูปรวมกับญาติ ๆ ค่ะ

       ช่วงเลี้ยงฉลองเที่ยง เราให้ของชำร่วยเป็น Card Folder ค่ะ โดยกำหนดการจะเริ่มด้วยการเปิดวิดีโอพรีเซนต์ให้แขกได้ดูกัน ซึ่งบางช่วงของคลิป เราก็ถ่ายทำกันที่นี่ด้วยค่ะ เราดีใจมากที่แขกชื่นชอบและตั้งใจดูกันค่ะ เมื่อวิดีโอจบลง คุณพ่อจะเดินไปส่งตัวมีนให้กับปอที่ยืนอยู่กลางห้อง จากนั้นก็สัมภาษณ์บ่าวสาว ต่อด้วยเพื่อนที่เป็นจุดเริ่มต้นและแนะนำให้เรารู้จักกัน จบด้วยขอบคุณคุณพ่อคุณแม่ของเรา แขกที่มางาน และทุกคนที่ช่วยเหลืองานค่ะ ซึ่งช่วงนี้เป็นอีกไฮไลต์เลยค่ะ เพราะเราตั้งใจจัดงานให้อบอุ่น เป็นกันเอง พ่อแม่และทุกคนที่มางานมีความสุขไปกับเราค่ะ แล้วก็ตัดเค้ก โยนดอกไม้ก่อนจบงานค่ะ

       สำหรับการจัดวางรูปแบบโต๊ะ เรามีโต๊ะค็อกเทลและโต๊ะกลมสำหรับแขกผู้ใหญ่จัดให้ทั้งในห้องบอลรูมและห้องรับรองใกล้กันค่ะ ซึ่งเราจัดเลี้ยงแบบค็อกเทลและเพิ่มซุ้มอาหาร เน้นหลากหลายสัญชาติ และเลือกรสอาหารที่ไม่เลี่ยนไป เช่น กระเพาะปลา ข้าวหน้าปลาไหล สเต็กปลากะพง บะหมี่เกี๊ยวปูหมูแดง ข้าวมันไก่ ติ่มซำ และพาสต้า ซึ่งแขกชมเมนูกระเพาะปลากับข้าวหน้าปลาไหลเยอะเลยค่ะ ตอนแรกเราคิดว่าเมนูค็อกเทลในงานแต่งมักจะเหลือ แต่พอเห็นว่าขายดีไม่ต่างกับซุ้มอาหาร ก็ทำให้เราปลื้มใจมาก ๆ ค่ะ

บ่าวสาวปลื้มปริ่ม งานสวย ทีมงานดี มีความเป็นทีมเวิร์ค

       โดยรวมรู้สึกชอบบรรยากาศของงานมาก เพราะเป็นไปอย่างที่เราต้องการ ทั้งการตกแต่งที่สวยคุมธีม การได้เจอแขกคนสนิท และได้เห็นคุณพ่อคุณแม่ของเราสองคนมีความสุขค่ะ ส่วนทีมงานทุกทีม ไม่ว่าจะเป็นทีมออแกไนซ์หรือทีมตกแต่ง เราโชคดีที่มีคนใกล้ตัวทำเกี่ยวกับงานแต่ง ทำให้เราไว้ใจ ซึ่งแต่ละทีมซัพพอร์ตและทำงานอย่างเป็นทีมเวิร์คมากค่ะ

       ทางโรงแรมเองก็ช่วยเหลือเราเยอะมากเหมือนกัน โดยเฉพาะเซลล์ที่ไม่ได้ดูแลแค่ของตกแต่งหรืออุปกรณ์ต่าง ๆ ที่มีอยู่ในงานแต่งงานเท่านั้น แต่เขาเข้ามาอยู่ในกระบวนการเตรียมงานตลอด ช่วยเหลือตั้งแต่เริ่มเตรียมงานจนถึงวันแต่งงาน ก็ยังคงดูแลดีสม่ำเสมอ นับว่าเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้งานเราผ่านไปได้ด้วยดีค่ะ 

คำแนะนำบ่าว-สาว 

หาข้อมูลและถามบ่าวสาวที่เคยใช้งานจริง : หาข้อมูลเยอะ ๆ ว่าเราชอบโทนงานประมาณไหน ชุดเป็นยังไง เพื่อให้รู้ความต้องการของตนเอง ต่อมาอยากให้คุยกับเจ้าบ่าวและครอบครัวก่อนว่าแต่ละคนมีความต้องการอะไรบ้าง ชอบหรือไม่ชอบอะไร งานจะได้ออกมาในทิศทางเดียวกันค่ะ นอกจากนี้ควรหาข้อมูลทีมงาน ดูรีวิว และสอบถามคนที่เคยใช้มาก่อน จะได้ทีมงานที่ถนัด มืออาชีพ และสามารถตอบโจทย์เราได้ค่ะ

ได้ทีมงานดี คุยถูกคอ ช่วยให้เราสบายใจขึ้น : นอกจากเวนเดอร์ที่มีความน่าเชื่อถือแล้ว อยากให้ดูเคมีของทีมที่จะมาร่วมงานด้วยว่าเป็นอย่างไร ถ้าเราได้ทีมที่ถูกคอและเข้าใจตรงกัน ในช่วงการเตรียมงานหลายเดือนนั้น เราจะสบายใจและทำงานได้อย่างราบรื่น

วางแผนให้ดี จะได้ไม่ลน : เราต้องวางแผนในช่วงเตรียมงานให้ละเอียดว่าแต่ละเดือนต้องทำอะไรบ้าง จะได้รู้ล่วงหน้าและเห็นภาพรวมที่ชัดเจนขึ้น และควรไฟนอลงานต่าง ๆ ให้เสร็จอย่างน้อย 1 เดือนก่อนวันแต่งงาน เพื่อจะได้ไม่ไฟลนก้น

เลือกของหมั้น พาผู้ใหญ่ไปด้วย : บ่าวสาวมือใหม่อาจไม่รู้ว่าของหมั้นจะต้องมีอะไรและใช้จำนวนเท่าไหร่บ้าง และผู้ใหญ่มักอยากให้เราเพิ่มภายหลัง ดังนั้นควรปรึกษาครอบครัวตั้งแต่แรก หรือพาไปดูของด้วยกัน เพื่อช่วยตัดสินใจและตัดปัญหาหน้างาน