Hyatt Regency Bangkok Sukhumvit โรงแรมสวยสง่า โรแมนติก ติด BTS นานา บริการครบครัน จัดงานแต่งได้แบบ Private
หลังจากไปสำรวจสถานที่แต่งงานมาหลายแห่ง น้ำฝนกับพี่ยศ (เจ้าบ่าว) เลือกจัดงานแต่งที่ Hyatt Regency Bangkok Sukhumvit (ไฮแอท รีเจนซี่ กรุงเทพฯ สุขุมวิท) ค่ะ เพราะชอบห้องบอลรูมเพดานสูง ขนาดตอบโจทย์จำนวนแขก 300 ท่าน โดยโรงแรมให้พื้นที่จัดงานเราทั้งชั้นจึงได้ความเป็นส่วนตัวมาก ๆ เดินทางสะดวกสบาย ในกรณีที่แขกไม่อยากขับรถมาก็สามารถนั่งรถไฟฟ้าลงสถานีนานาได้เลยค่ะ อีกส่วนคงเป็นความคุ้นชิน ไม่ว่าเราจะไปเที่ยวไหนก็มักจะพักโรงแรมเครือ Hyatt เสมอ เพราะประทับใจในมาตรฐานการบริการค่ะ
งานหมั้นแบบจีนอบอวลความอบอุ่น พร้อมมุมสวยไม่ซ้ำใคร
เราจัดงานหมั้นเช้าและเลี้ยงฉลองเย็นในห้องเดียวกัน โดยยึดโครงสร้างตกแต่งเดิม แล้วค่อยปรับเพิ่มดอกไม้และดีเทลให้ต่างกันค่ะ โดยใช้สีโรสโกลด์กับม่วงเป็นหลัก ซึ่งช่วงเช้าน้ำฝนใส่ชุดหมั้นจีนสีแดงสด เลยเพิ่มดอกไม้สีแดงเพื่อให้เข้ากับชุดด้วยค่ะ ส่วนฉากหลัง เราเจาะเป็นช่องแล้วใส่ความชอบของเจ้าสาวลงไป ด้วยการตกแต่งลูกปัดคริสตัลร้อยเรียงให้ได้ความหรูและระยิบระยับค่ะ
อีกจุดที่เราตกแต่งเพิ่ม คือจุดรับตัวเจ้าสาวที่ดีไซน์เป็นฐานวงกลม ด้านหลังทำฉากแนวตั้งประดับดอกไม้ค่ะ เราเอาไปตั้งตรงโถงติดผนังกระจกที่เห็นวิวรถไฟฟ้า เพราะส่วนตัวอยากทำพิธีในมุมที่มีแสงธรรมชาติค่ะ
เราโชคดีที่พอมีเวลาไปเก็บภาพตามส่วนต่าง ๆ ของโรงแรมก่อนเริ่มพิธีหมั้นค่ะ ซึ่งพี่นก Wedding Specialist ของโรงแรมก็แนะนำให้ขึ้นไปถ่ายภาพที่ชั้นรูฟท็อป เราเลยได้มุมสวยแบบไม่ค่อยซ้ำคู่อื่น แถมเติมเต็มความต้องการที่อยากมีภาพเอาท์ดอร์รับแสงเดย์ไลท์เยอะ ๆ ด้วยค่ะ
เมื่อได้เวลาก็มาทำพิธีกันยาว ๆ ตั้งแต่แห่ขันหมาก ผ่านประตูเงิน-ประตูทอง รับตัวเจ้าสาว มอบสินสอด สวมแหวน ทานขนมอี๋และยกน้ำชา ที่เริ่มจากญาติผู้ใหญ่ฝั่งเจ้าบ่าวก่อนแล้วต่อด้วยฝั่งเจ้าสาว ปิดท้ายด้วยการไปส่งตัวที่ห้องของโรงแรมค่ะ
สำหรับแขกสามารถรับประทานอาหารจากห้องเดิมได้เลย เพราะด้านหลังเราจัดโต๊ะกลมไว้ให้ค่ะ โดยเมนูช่วงเที่ยงมีข้าวหน้าเป็ด เกี๊ยวกุ้งน้ำ ข้าวมันไก่ และพาสต้าค่ะ
งานฉลองสวยหวานแบบ Feminine แต่แอบเท่ด้วยป้ายไฟนีออน
น้ำฝนเป็นสาวหวาน ก็เลยอยากให้งานมีความเป็น Feminine แต่เติมป้ายไฟนีออนเป็นชื่อบ่าวสาวเข้าไปให้ได้ฟีลสนุก เพื่อเอาใจเจ้าบ่าวสายปาร์ตี้ค่ะ จะเห็นได้จากมุมแกลเลอรีบ่าวสาวตรงโถงรับรอง เราเติมป้ายนีออนเข้าไป ฉากหลังทรงโค้งเติมลูกเล่นให้มีฉากทึบสลับโปร่งแสง เพื่อไม่ให้ดูตัน ส่วนธีมสีตกแต่งก็ผสมผสานกัน ทั้งโรสโกลด์ ม่วง พีช ส้ม จะได้ไม่ดูจืดเกินไปค่ะ
ส่วนแบ็คดรอปถ่ายภาพก็คงความเว้าโค้งเช่นกันค่ะ แต่เล่นกิมมิกด้วยการไดคัทตรงกลางเพื่อสร้างมิติ ทำให้ดูแตกต่างจากฉากในห้องบอลรูมค่ะ และพอถึงงานตอนเย็น เราก็เอาดอกไม้สีแดงออก แล้วเพิ่มดอกไม้ตามธีมสีเข้าไปให้เป็นพุ่มจัดเต็ม ดูอลังการขึ้นค่ะ
ช่วงงานฉลอง หลังจากแขกรับของชำร่วยเป็นเทียนหอมสลักรูปแคกตัสแล้ว สามารถถ่ายรูปกันที่โฟโต้บูธก่อน หรือจะมาถ่ายกับบ่าวสาวเลยก็ได้ค่ะ
เราเปิดวีดีโองานหมั้นให้แขกได้รับชมกันก่อน จากนั้นก็เดินเปิดตัวเข้าไปในงาน มีประธานขึ้นกล่าวคำอวยพร ต่อด้วยบ่าวสาวเผยความในใจกัน แต่เนื่องจากพี่ยศพูดไม่เก่งและค่อนข้างขี้อาย ช่วงนี้เลยจบไวมากค่ะ เสร็จแล้วเราก็ไปตัดเค้ก โดยเปิดเพลง Golden Hours ของศิลปิน JVKE คลอบรรยากาศ เราเลือกเพลงนี้ เพราะใช้ตอนถ่ายพรีเวดดิ้งกันที่เยอรมัน จึงมีความหมายและความทรงจำต่อคู่เราค่ะ เสร็จแล้วก็ดึงริบบิ้นช่อดอกไม้ค่ะ
งานนี้มีแขกผู้ใหญ่เยอะ เราจึงเลือกจัดเลี้ยงโต๊ะจีนค่ะ และแม้จะตั้งโต๊ะ 30 โต๊ะ ห้องบอลรูมก็ยังดูไม่แออัดเลยค่ะ ซึ่งเราชอบตรงที่โต๊ะกลมของโรงแรมมีขนาดใหญ่และหน้ากว้างพิเศษ ทำให้การรับประทานอาหารดูไม่แน่นไปค่ะ โดยเสิร์ฟเมนูเป็ดปักกิ่ง กระเพาะปลาเนื้อปู หอยเชลล์ผัดซอส XO ปลากระพงเต้าซี่ ลูกบัวในน้ำนมอัลมอนด์ ซึ่งน้ำฝนคอนเฟิร์มเลยว่าของหวานอร่อยจริง และแปลกใหม่ ไม่ค่อยเห็นในเซ็ตโต๊ะจีนด้วยค่ะ แขกในงานก็ชมเยอะเหมือนกันว่าอาหารอร่อย โดยเฉพาะหอยเชลล์ผัดซอส XO ที่ทางโรงแรมคัดหอยเชลล์ตัวใหญ่และเนื้อนุ่มมากค่ะ
เราพยายามทำให้ทุกพิธีกระชับเพื่อจะได้เข้าสู่อาฟเตอร์ปาร์ตี้เร็ว ๆ เนื่องจากเราจัดงานแต่งวันอาทิตย์ กลัวว่าแขกบางส่วนต้องรีบกลับบ้านเพื่อไปทำงานในวันรุ่งขึ้นค่ะ สำหรับช่วงอาฟเตอร์ปาร์ตี้ เรากั้นห้องให้เล็กลงเพื่อให้แขกอินไปกับบรรยากาศเสมือนมินิคอนเสิร์ต จัดเต็มด้วยแสง สี เสียง มันส์ไปกับดนตรี EDM เพียว ๆ เลยค่ะ
สุขใจเกินร้อย เพราะโรงแรมและทีมงานดีเยี่ยม
เราปลื้มใจที่เห็นแขกตั้งใจมาร่วมงานกัน บางท่านเดินทางมาไกลมาก หรือบางท่านไม่ได้เจอกันนานก็ได้พบกันในงานนี้ และต้องบอกว่า เราเจอแต่ทีมงานดี ๆ ไม่ว่าจะเป็นทีมตกแต่ง ช่างภาพและวีดีโอ ทุกฝ่ายตั้งใจทำงานมากค่ะ เวดดิ้งแพลนเนอร์ก็เป็นที่ปรึกษาที่ดี ทำให้บ่าวสาวอย่างเราเข้าใจว่าการจัดงานแต่งไม่ใช่เรื่องยากค่ะ
นอกจากนี้ยังประทับใจการบริการของโรงแรม รวมถึงพี่นก ที่ให้คำแนะนำ ดูแลคู่เราได้ดีมาก ช่วยจัดการและประสานงานอย่างมืออาชีพ หากสงสัยหรืออยากเปลี่ยนอะไร เขาตอบเร็ว แถมแก้ปัญหาได้หมดเลยค่ะ พองานแต่งของเรามีแต่ทีมงานเก่ง ๆ ได้โรงแรม Facilities ดี ทุกคนเต็มใจช่วยเหลือ เราจึงหมดห่วงเพราะรู้ว่างานราบรื่นแน่นอนค่ะ
คำแนะนำสำหรับบ่าว-สาว
ตั้งงบและเผื่อสำรองอีก 20% : แน่นอนว่าบ่าวสาวต้องตั้งงบสำหรับงานโดยรวมอยู่แล้ว เช่น ค่าสถานที่จัดงาน ชุดแต่งงาน ช่างแต่งหน้า ช่างภาพ ทีมตกแต่ง แต่ก็อยากให้เผื่องบสำรองไว้ด้วย เพราะยังมีดีเทลยิบย่อยอีกมากมาย เช่น วงดนตรี ค่าเครื่องดื่มแอลกฮอลล์ ค่าเอฟเฟ็กท์ดรายไอซ์ ค่าระบบไลท์ แอนด์ ซาวนด์ เป็นต้น
ฝากมือถือไว้กับคนใกล้ชิด : บ่าวสาวคือพระเอกนางเอกในวันแต่งงาน เวลาแขกมาถึงมักจะโทรหาบ่าวสาว ส่งผลให้บ่าวสาวหลุดโฟกัสจากงานตรงหน้าได้ ฉะนั้นควรฝากมือถือไว้กับคนใกล้ชิด จะได้ไม่กังวลจนทำอะไรไม่ถูก
ก่อนแต่งงาน 1 เดือน ควรรักษาหุ่นให้ได้เท่าเดิม : ส่วนใหญ่บ่าวสาวจะไฟนอลฟิตติ้งชุดประมาณ 1 เดือนก่อนวันแต่งงาน จากนั้นร้านชุดจะตัดเย็บ แก้ไขให้เรียบร้อย เราจึงต้องรักษาหุ่นให้ได้เท่าเดิมมากที่สุด เพราะถ้าหุ่นเปลี่ยนมาก อาจจะต้องแก้ไขชุดใหม่ด้วย
เตรียมตัวเป็นเจ้าสาวควรทำเล็บและทำผมอย่างน้อย 1 อาทิตย์ก่อนวันงาน : เจ้าสาวคนไหนชอบทำเล็บ ควรทำล่วงหน้าสัก 1 อาทิตย์กำลังดี ถ้านานเกินกว่านั้น สีเล็บอาจหลุดลอกได้ รวมไปถึงการตัดแต่งทรงผมที่จะเซ็ตเข้ารูปพอดี แต่ขอแนะนำว่าควรตัดกับช่างประจำเท่านั้น เพื่อลดความเสี่ยงของการตัดผมผิดพลาด