S31 Sukhumvit Hotel โรงแรมใกล้ BTS พร้อมพงษ์ ห้องบอลรูมเพดานสูง โดดเด่นด้วยจอ LED
แพรกับบอล (เจ้าบ่าว) จัดงานแต่งโดยคำนึงถึงแขกเป็นหลัก อยากให้พวกเขาเดินทางสะดวกสบาย เลยมองหาโรงแรมติด BTS หรือ MRT และไม่ไกลจากที่พักเรามากค่ะ เบื้องต้นเราหาผ่าน Google Maps ก่อน จากนั้นก็ลิสต์โรงแรมมาส่วนหนึ่งเพื่อไปดู แต่สุดท้ายเราเลือก S31 Sukhumvit Hotel (โรงแรม เอส31 สุขุมวิท) เพราะตอบโจทย์ที่ใกล้รถไฟฟ้า BTS สถานีพร้อมพงษ์ค่ะ
เราชอบเพดานสูงของห้องบอลรูม และจอ LED ที่ปัจจุบันเริ่มเห็นบ่าวสาวหลายคู่ใช้กันมากขึ้น การมีจอ LED ช่วยทำให้คิดธีมงานได้ง่ายขึ้นว่าอยากให้งานไปในสไตล์ไหนค่ะ นอกจากนี้ยังชอบพื้นที่จัดงานตรงห้องบอลรูมและห้องหมั้นที่อยู่ชั้นเดียวกัน ช่วยให้แขกไม่สับสน แถมยังสะดวกสบาย ไม่ต้องเดินไกล โดยเฉพาะแขกผู้ใหญ่ที่ไม่เหมาะกับการเดินเยอะเท่าไหร่ค่ะ
งานหมั้นไทย-จีนแบบกระชับ ตกแต่งหลากสีละมุนตา
การตกแต่งงานหมั้นจะอยู่ในแพ็กเกจของโรงแรมที่เขาดูแลให้ โดยใช้ดอกไม้จริงสีคัลเลอร์ฟูลค่ะ ซึ่งแพรตกแต่งแค่บนเวที โดยเลือกจากแพทเทิร์นที่มีอยู่ เป็นโครงเหล็กวงกลมตั้งตรงกลางและประดับดอกไม้ไล่ตามโครงสร้างค่ะ และเรายังอยากให้งานหมั้นมีความอบอุ่นสบายตายิ่งขึ้น ตรงหลังเวทีที่มีม่านสองชั้น เราเลยเปิดผ้าม่านผืนหนาออกเล็กน้อย เพื่อรับแสง Daylight ได้กำลังดีค่ะ
พิธีหมั้นของเราเป็นแบบไทย-จีนที่เน้นความกระชับ เพราะจบงานหมั้นแล้วต้องต่องานเลี้ยงฉลองเลย และเราไม่อยากให้แขกรอนานด้วยค่ะ ดังนั้นช่วงเช้าก็จะมีอาหารให้รองท้องกันก่อน อย่างเมนูข้าวต้มปลาและ Coffee Break ค่ะ เรียบร้อยแล้วก็เริ่มทำพิธีแห่ขันหมาก รับตัวเจ้าสาว มอบสินสอด สวมแหวน และปิดท้ายด้วยยกน้ำชาค่ะ
งานฉลองแสนสดใสไปกับสีสันของดอกไม้จริงและ 'Big Flower'
แพรคิดไว้ตั้งแต่แรกเลยว่าอยากได้ Big Flower มาไว้ในงาน เพราะคิดว่าเป็นองค์ประกอบที่ช่วยให้งานดูน่ารักขึ้น โดยเราเพิ่มความสดใสด้วยการใช้ธีมสีฟ้า ชมพู และเบจ เพราะมองว่าการใช้หลายสีผสมกัน จะช่วยให้งานดูหวานกลมกล่อมค่ะ
เริ่มจากตรงโถงรับรอง แพรเลือกให้มีแกลเลอรี 2 จุดด้วยกัน จุดแรกเป็นโรงแรมดูแลการตกแต่งให้ ออกแบบเป็นบอร์ดยาวสีขาวติดภาพบ่าวสาวหลากไซส์ คล้ายผนังบ้านติดรูปต่าง ๆ ให้ฟีลอบอุ่นดีค่ะ เราเลือกตั้งปิดตรงทางเข้าห้องหมั้นไว้ เพื่อกันแขกสับสนหรือเข้าห้องผิดค่ะ ส่วนจุดที่สองจะตั้งอยู่สองข้างทางก่อนไปถึงแบ็คดรอปถ่ายภาพ ตรงนี้ทำเป็นโครงโปร่งพ่นสีขาว ห้อยภาพพรีเวดดิ้ง และแต่งด้วยดอกไม้จริงค่ะ
ส่วนแบ็คดรอปถ่ายภาพ นอกจากจะตกแต่งดอกไม้จริงสลับ Big flower แล้ว เรายังใช้หลายฉากมาจัดวางแบบเล่นเลเยอร์ให้ดูมีมิติ เพิ่มกิมมิกที่ฝั่งขวามือของฉาก ออกแบบเป็นซุ้มโค้งสีขาว มีแท่นเหมือนมินิสเตจ ตกแต่งด้วยดอกไม้จัดเต็ม เอาไว้เป็นมุมให้แขกปลีกตัวไปถ่ายรูปเดี่ยวได้ค่ะ
ภายในห้องบอลรูม โซนตั้งเค้กจะตกแต่งด้วยดอกคัตเตอร์เต็มบริเวณพื้น ส่วนดอกไม้และองค์ประกอบต่าง ๆ บนเวทีเป็นธีมสีเดิม แต่ใช้เฉดที่ดูจัดจ้านขึ้นค่ะ เพราะอยากให้เข้ากันกับโมชั่นกราฟิกในจอ LED ที่มีหลายฉากเปลี่ยนไปตามพิธีการ เช่น ฉากดาวตก ฉากพลุเฉลิมฉลอง
เราเห็นว่าในห้องมีจอโปรเจกเตอร์หลายจุด เลยคิดว่าช่วงที่โมชั่นกราฟิกขึ้นจอ LED ตรงหน้าเวที ก็อยากให้ฉายบนจออื่น ๆ ด้วย จะได้ให้บรรยากาศไปในทิศทางเดียวกัน จึงรีเควสต์เพิ่มเติมกับทางคุณโบว์ เซลล์ของโรงแรมที่น่ารักมาก เขาพยายามจัดสรรคนมาช่วยทำคิวส่วนนี้ด้วยค่ะ
สำหรับของชำร่วย เราอยากหาอะไรที่ลิงก์กับความชอบของตัวเอง เลยเลือกเป็นสบู่อัญมณี เพราะเราสายมูค่ะ โดยรูปทรงและสีจะล้อไปกับอัญมณีต่าง ๆ เช่น หยก ทับทิม และมีระบุความหมายไว้ด้วยว่าช่วยเรื่องอะไร เราก็ดีใจเพราะไม่คิดว่าแขกจะสนุกกับการเลือกของชำร่วย จนยืนอยู่ตรงนี้กันนานเลยค่ะ
ลำดับคิวงานเริ่มจากเราเปิดตัวมาพร้อมคุณพ่อ โดยบอลจะยืนอยู่กลางห้องเพื่อรอรับตัวเจ้าสาวค่ะ หลังจากเจอกันก็ขึ้นเวที โดยมีคุณลุงของแพรเป็นประธานกล่าวคำอวยพร พร้อม 2 ครอบครัวขึ้นมาร่วมกันค่ะ จากนั้นเพื่อนของเราสองคนก็ขึ้นมาพูด Speech ซึ่งจังหวะนี้ทำเจ้าสาวเสียน้ำตาเยอะเลยค่ะ
ต่อด้วยเราไปรินแชมเปญทาวเวอร์ ตัดเค้ก และโยนช่อดอกไม้ คิวนี้แอบมีกิมมิกน่ารัก ๆ ตรงที่เราโยนดอกไม้ 1 ช่อใหญ่ แล้วจะแตกเป็น 3 ช่อเล็ก เราอยากให้มีคนได้หลายคน เพราะเพื่อน ๆ รีเควสต์กันมาเยอะค่ะ
เรื่องอาหารจัดเลี้ยง เราเลือกเมนูโต๊ะจีนเพราะแขกผู้ใหญ่ค่อนข้างเยอะ อีกทั้งอยากให้แขกกว่า 400 ท่านได้นั่งทานอย่างสบายใจ ไม่ต้องวุ่นวายไปตักอาหาร และอยากให้แขกโฟกัสที่บ่าวสาวมากกว่าค่ะ ซึ่งเราเลือกเมนูเป็ดอบซอส กระเพาะปลา โอวหนี่แปะก๊วย ฯลฯ ฟีดแบ็คจากแขกยิ่งทำให้เราดีใจ เพราะส่วนใหญ่ชมว่าอร่อยค่ะ
บ่าวสาวมีความสุข บรรยากาศเปี่ยมรัก และได้ทีมงานมืออาชีพ
อันดับแรก เราปลื้มใจที่แขกสละเวลามาร่วมงาน และชื่นชอบทั้งของชำร่วยและบรรยากาศอบอุ่นของงานเราค่ะ ส่วนตัวแพรชอบช่วงเพื่อนพูด Speech เป็นพิเศษ เพราะทำให้เรานึกถึงวันวาน บางเหตุการณ์ก็ไม่คิดว่าเพื่อนจะจำได้ด้วย รู้สึกดีมากค่ะ
ส่วนการตกแต่งในงานก็ชอบมาก และประทับใจที่ทีมงานต่าง ๆ ทำงานร่วมกันแบบมืออาชีพและเป็นทีมเวิร์คค่ะ สำหรับทางโรงแรม เราประทับใจทั้งเรื่องอาหาร และคุณโบว์ เซลล์ของโรงแรมที่พยายามยืดหยุ่นเพื่อให้เราได้ตามต้องการ ซึ่งทางฝั่งเขาเองก็ยังทำเช็กลิสต์เพื่อคอยอัปเดตเราด้วยว่า ตอนนี้ขาดอะไรบ้าง ช่วยกันเราตกหล่น ใกล้ ๆ วันงานก็จะมาคอย Follow up ด้วยค่ะ
คำแนะนำสำหรับบ่าว-สาว
ฤกษ์แต่งงานเลือกเองได้ : หากบ่าวสาวแต่งงานในวันมหาฤกษ์ เราจะหา Vendor ยากขึ้น เพราะคนจะแห่กันไปใช้ทีมงานยอดนิยมกันหมด แต่ถ้าเราไม่ได้เคร่งเรื่องฤกษ์มาก สามารถใช้ฤกษ์สะดวกได้ จะมีโอกาสหาทีมงานง่ายขึ้น และไม่กดดันเกินไปด้วย
หาช่างแต่งหน้าทำผมเป็นอันดับแรก : สองอย่างนี้คิวเต็มไวกว่าหมวดอื่น และการหาช่างที่ถูกใจไม่ใช่เรื่องง่าย ฉะนั้นควรรีบจองให้ไว และลองใช้บริการนอกรอบก่อน หรือถ้าไม่มีโอกาสลอง อาจหาภาพที่เราเคยแต่งหน้าทำผม ให้เขารู้สไตล์และรู้ว่าควรเสริมอะไรเพิ่มเติม
ทำเช็กลิสต์ขั้นตอนดำเนินงานและงบประมาณ : ทำให้เห็นภาพรวมว่าใช้จ่ายเงินไปเท่าไหร่ สามารถเพิ่มหรือตัดงบส่วนไหนได้บ้าง รวมถึงการได้เห็นว่าตอนนี้ทำงานไปถึงขั้นตอนไหน จะทำให้เราได้รู้ด้วยว่าถึงเวลาที่ควรติดตามงานของทีมงานต่าง ๆ หรือยัง เผื่อเกิดเหตุที่ต้องแก้ไข จะได้มีเวลาปรับแก้ทัน
Photographer : Supavakunpix Wedding