รีวิวงานแต่งคุมโทน Classic Vintage อบอุ่นเหมือนได้รวมรุ่นอีกครั้ง @Millennium Hilton Bangkok

Millennium Hilton Bangkok สถานที่แต่งงานริมแม่น้ำ ตกแต่งสวยมีสไตล์ ตรงใจบ่าวสาว

       วุฒิกับมิว (เจ้าสาว) เลือกหาสถานที่จัดงานแต่งงานใกล้บ้านก่อน จากนั้นจึงค่อยสำรวจสถานที่จริง เพื่อดูการตกแต่งโดยรวม ขนาดห้องจัดงาน รวมถึงพูดคุยกับเซลล์ว่าเป็นยังไง จากที่ดูมา เราชอบ Millennium Hilton Bangkok (โรงแรมมิลเลนเนียม ฮิลตัน กรุงเทพฯ) ที่สุด เพราะนอกจากเป็นโรงแรมริมแม่น้ำเจ้าพระยาที่มีระดับแล้ว ยังชอบห้องบอลรูมที่รีโนเวทใหม่และมีสไตล์การตกแต่งที่เข้ากับคอนเซ็ปต์ในหัวของเราพอดี ตลอดจนได้เจอเซลล์ที่ให้คำแนะนำดี เต็มใจช่วยเหลือและบริการ เลยเป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้ตัดสินใจเลือกที่นี่ครับ

ตกแต่งคลาสสิกเหนือกาลเวลา แฝงด้วยตัวตนของบ่าวสาว

       เรามีคีย์เวิร์ดของการตกแต่งงาน คือ Timeless, Classic และ Vintage เพราะอยากได้แนวย้อนยุค โทนสีของงานจึงใช้สีเอิร์ธโทนเป็นหลักครับ และเลือกตกแต่งงานล้อไปกับสถานที่ได้เลย ไม่ใช่แค่เพียงโทนสีเท่านั้น แต่ยังคุมโทนกับ Material อีกด้วย อย่างเช่น แบ็คดรอปถ่ายภาพที่เลือกใช้วัสดุไม้เทียมคลุมไปกับฉาก โดยคงคอนเซ็ปต์ที่ว่า ‘สมดุลแบบไม่สมมาตร’ นั่นคือทั้งฝั่งซ้ายและขวาของฉากจะดูไม่เหมือนกัน แต่อาศัยการจัดวางให้ดูสวยมีสไตล์ ขณะเดียวกัน เวลาบ่าวสาวอยู่ในฉากก็ยังโดดเด่นขึ้นมาได้ครับ

       เท่านั้นยังไม่พอ องค์ประกอบที่ประดับตรงฉากนั้นยังสื่อถึงตัวตนของเราได้ดี เช่น การตกแต่งด้วยพินโบว์ลิ่งผ่าครึ่ง สื่อถึงตัวผมที่เคยเป็นอดีตนักกีฬาโบว์ลิ่งเยาวชนทีมชาติไทยครับ ส่วนอีกชิ้นที่ผมเรียกว่าลูกกลึงกลมสีขาว ต้องการล้อไปกับการตกแต่งตรงผนังด้านในห้องบอลรูมครับ สำหรับมุมแกลเลอรี เราเลือกใช้ดอกไม้พันธุ์ไทยและดึงองค์ประกอบที่อยู่ตรงแบ็คดรอปมาตกแต่งแทรกไปตามภาพบ่าวสาวด้วยครับ

       ด้านในห้องบอลรูม ผนังของโรงแรมตรงจุดตั้งเวทีมีความสวยงามอยู่แล้ว แถมเข้ากับธีมงานจนสามารถใช้เป็นฉากเวทีได้เลย เราจึงต่อยอดอีกนิดหน่อย ด้วยการใช้โครงเหล็กโปร่งและตกแต่งดอกไม้เล่นระดับครับ ส่วนโลโก้บ่าวสาวก็ใช้ตัวอักษรย่อทำลายโมโนแกรม แตกต่างจากด้านนอกที่ใช้ชื่อจริงของบ่าวสาว เพราะเราพยายามเลือกโลโก้ให้เหมาะกับพื้นที่ด้วยครับ

       สำหรับของชำร่วย มาจากความชอบเราสองคน มิวชอบเทียนหอม ส่วนผมชอบพวกงานหนัง เลยทำเป็นที่รองแก้วหนัง เรานำของสองอย่างมาไว้ในงาน แขกจะได้มีตัวเลือกกันด้วยครับ

เต็มอิ่มไปด้วยความสุขและเสียงหัวเราะแบบ Nonstop

       งานแต่งของเรามีแขก 200 กว่าคน เราตั้งใจให้เหมือนงานรียูเนี่ยนที่ได้เจอคนสำคัญในชีวิต ได้เจอเพื่อนเก่า ๆ ที่บางช่วงเวลาอาจขาดการติดต่อ และตกหล่นไประหว่างช่วงชีวิตบ้าง เราจึงให้เพื่อน ๆ บ่าวสาว 50-60 คน มีส่วนร่วมในการโปรยดอกไม้ในช่วงเปิดตัว นอกจากนี้ยังเพิ่มกิมมิกด้วยการขอความร่วมมือให้แขกเปิดแฟลชจากมือถือ จึงได้แสงไฟระยิบยับและถ่ายภาพสวยไปอีกแบบครับ

       เมื่อเราขึ้นบนเวที พิธีกรเชิญประธานกล่าวคำอวยพรก่อน ตามด้วยแนะนำตัวเองแบบไม่พึ่งพิธีกร เพราะส่วนตัวเป็นคนกล้าแสดงออก ไม่เคอะเขิน และด้วยความที่เคยเป็นพิธีกรในงานแต่งเพื่อนมาก็หลายงาน จึงคิดว่าการที่บ่าวสาวเป็นฝ่ายแนะนำตัวเอง จะช่วยเพิ่มความเป็นกันเอง และทำให้แขกเข้าถึงตัวตนของเราได้มากขึ้นครับ

       หลังจากแนะนำตัวเองเสร็จ ก็ต่อด้วยรินแชมเปญทาวเวอร์ และโยนดอกไม้เลย เราเพิ่มโยนกล่องเหล้าเข้ามาด้วย เพราะอยากให้เพื่อนเจ้าบ่าวและเพื่อนเจ้าสาวเอ็นจอยกันทั้งสองฝ่ายครับ

       เสร็จพิธีการแล้วก็เข้าสู่งานอาฟเตอร์ปาร์ตี้ เรากั้นขนาดห้องให้เล็กลง เพื่อให้แขกเข้าถึงกันได้ง่ายขึ้น โดยเราไปเปลี่ยนชุดและกลับเข้ามาในงานด้วยการร้องเพลง 'เธอทั้งนั้น' ของ Groove Riders จากนั้นก็ให้เพื่อน ๆ มาอยู่ตรงบาร์เครื่องดื่ม แล้วแข่งกันดื่มแอลกอฮอล์ครับ สังสรรค์กันพอประมาณ เมื่อได้เวลาตามเงื่อนไขที่โรงแรมกำหนดไว้ พวกเราจึงมูฟไปต่อที่ห้องพัก Royal Suit ซึ่งขนาดของห้องกว้างขวางมาก เหมาะสำหรับ Private Party ที่เชิญเพื่อน ๆ มาสนุกสนานกันต่อแบบ Nonstop ไปเลยครับ

       ในส่วนของอาหารจัดเลี้ยง เราให้ความสำคัญกับแขกทุกกลุ่ม จึงจัดประเภทอาหารแยกกันครับ สำหรับแขกผู้ใหญ่หรือแขก VIP นั้น ผมรับรองเมนูโต๊ะจีน 6 โต๊ะ จะได้ไม่ต้องกังวลว่าพวกท่านจะอิ่มไหม ส่วนแขกท่านอื่น เราจัดทั้งโต๊ะกลมและโต๊ะค็อกเทลผสมผสานกันครับ โดยเมนูอาหารเป็นบุฟเฟ่ต์นานาชาติ เช่น ผัดไทยกุ้ง ต้มยำกุ้ง เนื้อสันในย่างกับซอสเห็ด ไก่สะเต๊ะ และยำเนื้อย่างครับ

       โดยส่วนตัวเรามองว่า ที่นี่ถือเป็นโรงแรมอันดันต้น ๆ ที่อาหารจัดเลี้ยงอร่อยครับ ซึ่งหลังจากเราได้ Food Tasting และมีการปรับรสชาติอาหารกันไปแล้ว พอถึงวันงาน แขกชมเรื่องอาหารเยอะมาก ซึ่งส่วนใหญ่จะชอบเมนูเป็ดปักกิ่งกันครับ ดังนั้นเรื่องอาหารจึงเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เราดีใจ เพราะสิ่งที่มุ่งหวังว่าอยากให้แขกได้ความอร่อยและอิ่มท้องกลับบ้านคอมพลีตแล้วครับ

เปี่ยมล้นความประทับใจ อิ่มเอมในทุกโมเมนต์  

       เรามองว่าวันนี้ไม่ใช่แค่งานแต่งของเราเท่านั้น แต่ยังเป็นงานรียูเนี่ยนที่เพื่อนทุกช่วงวัยของชีวิตมารวมตัวกัน ซึ่งบางคนอาจห่างหายกันไปตามภาระและหน้าที่ การได้เจอกันเลยยิ่งทำให้บรรยากาศงานเต็มไปด้วยความสุขและอบอุ่นจริง ๆ ครับ

       ความประทับใจต่อมา คือ ทีมตกแต่งที่สามารถถ่ายทอดสิ่งที่เราเล่า แล้วแปลงออกมาเป็นรูปธรรมได้อย่างสวยงาม ส่วนช่างภาพที่เราเลือกมา ทั้งช่างภาพฟิล์ม และช่างภาพดิจิตอล แม้จะเป็นคนละทีม แต่ก็สามารถถ่ายทอดออกมาในมู้ดเดียวกันได้ และยังสวยเข้ากับการตกแต่งมากครับ

       เรื่องชุดเจ้าบ่าวก็เป็นอีกเรื่องที่ประทับใจครับ เพราะนอกจากจะได้ของมีคุณภาพคุ้มราคาแล้ว ตัวสูทยังสามารถ Customize ให้ชุดเจ้าบ่าวนั้นดูมีเอกลักษณ์ได้อีกด้วย ส่วนช่างแต่งหน้า-ทำผมก็มีฝีมือ เพราะเขาสามารถลบจุดบกพร่องของบ่าวสาว แถมเปลี่ยนพวกเราออกมาให้ดูดี ช่วยให้วันนั้นเราเป็นบ่าวสาวที่มั่นใจยิ่งขึ้น

       และสิ่งสำคัญคือ พวกเราประทับใจการตกแต่งของโรงแรมที่สวยและมีสไตล์มากครับ การได้โรงแรมที่โทนเข้ากับธีมงานจะยิ่งช่วยส่งเสริมกันและกัน ทั้งยังทำให้ตกแต่งง่ายขึ้นด้วย นอกจากนี้ ทีมงานก็ดูแลพวกเราอย่างดี รวมไปถึงเซลล์ที่พยายามหาทางออกหรือแก้ไขปัญหาให้งานออกมาดีที่สุด ต้องขอบคุณทั้งโรงแรมและทุกทีมงานจริง ๆ ครับ

คำแนะนำบ่าว-สาว

สำรวจสถานที่จัดงานแต่งจริงล่วงหน้า 6 เดือน - 1 ปี : การไปสำรวจสถานที่จริงย่อมดีกว่าดูแค่รูปภาพหรือรีวิวอย่างเดียว เพราะเราจะได้เห็นการตกแต่งและภาพรวมของโรงแรมว่าเป็นอย่างไร รวมถึงได้พูดคุยกับเซลล์ด้วยว่าคลิกกันไหม  

หา Reference ตกแต่งที่ชอบ เก็บไว้บอกทีมงาน : หากไม่มีสไตล์ที่ชัดเจน หรือไม่รู้จะสื่อสารไอเดียยังไง การหาเรฟเฟอร์เรนซ์ที่ชอบตามอินเตอร์เน็ต มาประกอบการคุยกับทีมตกแต่ง จะช่วยให้ทีมงานเข้าใจในสิ่งที่เราชอบและเห็นภาพไปในทิศทางเดียวกัน อีกทั้งยังทำให้การทำงานง่ายขึ้นด้วย

อะลุ่มอล่วย คือ ทางออก : การจัดงานแต่งงานก็เหมือนบททดสอบของการใช้ชีวิตคู่ เพราะช่วงการเตรียมงานแต่งบ่าวสาวย่อมมีความเห็นไม่ตรงกัน เผลอ ๆ อาจมีเรื่องผู้ใหญ่เข้ามาเกี่ยวข้องด้วย วิธีการแก้ปัญหาคือให้พูดคุยกันตรง ๆ อย่างมีเหตุมีผล อะลุ่มอล่วย เพื่อหาทางออกกันอย่างสันติ

เสพสื่อเรื่องการแต่งงาน รับรองช่วยได้เยอะ : การหาข้อมูลผ่านโซเชียลมีเดียหรือเว็บไซต์เกี่ยวกับงานแต่ง ถือเป็นตัวช่วยที่ดี เพราะเขาคัดสรรและรวบรวมข้อมูลมาให้เราแล้ว ซึ่งจะช่วยให้บ่าวสาวเข้าใจภาพรวมของการจัดงานแต่งได้มากขึ้น และหากบ่าวสาวหาข้อมูลไปพร้อมกัน จะทำให้เห็นภาพในทิศทางเดียวกัน ช่วยให้เราสรุปงานได้ไวขึ้นด้วย