รีวิวงานแต่งสุดน่ารัก ธีมจากการ์ตูนคาแรคเตอร์ของบ่าวสาว @ AUBE

AUBE สถานที่แต่งงานมีเสน่ห์ ดีไซน์ Minimal

       งานแต่งงานของเราจัดที่ AUBE(โอบ) ค่ะ เราเห็นจากเพื่อนๆ พี่ๆ เขาแชร์ในโซเชียล ด้วยความบังเอิญ ก็เลยกดเข้าไปดู ก่อนจะไปสำรวจสถานที่จริง พอได้เห็นก็ชอบและเลือกโดยไม่ไปดูที่อื่นเลย แม้จองคิวข้ามปีก็ยอมค่ะ(หัวเราะ) 

       ส่วนเหตุผลที่เลือกนั้น เนื่องจากเราสองคนมีครอบครัวอยู่ต่างจังหวัดด้วย จึงเลือกหาสถานที่เป็นจุดกึ่งกลาง ซึ่ง AUBE อยู่ย่านชานเมือง เดินทางง่ายสำหรับผู้ที่มาจากต่างจังหวัดพอดี อีกอย่างเราชอบสถาปัตยกรรมที่มีโครงสร้างทรงโค้งเส้นสายของตัวอาคารดูมีเสน่ห์ทันสมัยแต่แฝงด้วยความเรียบง่ายแบบฉบับมินิมัลซ่อนอยู่ด้วยค่ะ

คอนเซ็ปต์ตัวการ์ตูนบ่าวสาวเข้ากับธีมสีฟ้าชมพูสดใส 
       เราใช้เวลาเตรียมงานเกือบปีค่ะ ตอนแรกก็คิดจะทำเองเพราะเห็นว่ามีเวลาเยอะ แต่ไปๆ มาๆ ชักเริ่มจวนตัว(หัวเราะ) เลยจ้างแพลนเนอร์ให้เขาจัดการเรื่องไทม์ไลน์ รวมถึงการประสานงาน ส่วนเราก็เน้นคุมธีมงานเป็นหลัก แต่เนื่องจากสถานที่สวยด้วยตัวเองอยู่แล้ว จึงไม่ต้องตกแต่งอะไรมากมาย แค่ยึดตามคอนเซ็ปต์ที่วางไว้ว่าจะใช้ตัวการ์ตูนที่เราวาดเองในเพจโซเชียลมีเดีย โดยหยิบ Character มาใช้เสมือนเป็นโลโก้ของงานแต่ง เราวาดลงดีเทลกระทั่งชุดแต่งงานบ่าวสาวเหมือนแบบที่เราใส่จริงเลยค่ะ

       เรานำตัวการ์ตูนนี้ไปสอดแทรกในการ์ดทั้งงานเช้าและงานเย็น ในวิดีโอ พรีเซนเทชั่น แสตนดี้ และขาตั้งเหล็กห้อยตัวการ์ตูนดัดอะคริลิกเล่นไฟนีออนสีชมพู เท่านั้นยังไม่พอ ช่วงเย็นโลโก้ตัวการ์ตูนนี้จะปรากฎขึ้นบนผนังของตัวอาคารที่ใช้โปรเจคเตอร์ฉายแสงเลเซอร์ไปทำให้งานดูมีลูกเล่นและน่ารักดีด้วยค่ะ

       สำหรับธีมสีหลักในการตกแต่งนั้น เราใช้สีฟ้าชมพูออกพาสเทล และเพิ่มลูกเล่นด้วยการเน้นสีใดสีหนึ่งไปตามประเภทงาน อย่างงานเช้าเน้นสีชมพูเป็นหลักเสริมด้วยสีฟ้า ส่วนงานเย็นก็เน้นสีฟ้าเป็นหลักเสริมด้วยสีชมพูแบบนี้ค่ะ ดังนั้นสีจึงมีผลต่อการตกแต่งงานด้วยมากๆ 

       อย่าง Blackdrop ที่ทำพิธีหมั้นตอนเช้าจะเป็นสีชมพูประดับด้วยแจกันมากมายใส่ดอกไม้สดหลากชนิด ซึ่งเราก็ได้นำมาประยุกต์ใช้เป็น Blackdrop ถ่ายภาพช่วงงานเย็นด้วย คือว่าง่ายๆ ห้องทำพิธีตอนเช้าจะถูกปรับเปลี่ยนเป็นห้องลงทะเบียนและถ่ายภาพร่วมกับแขกไปเลย ส่วนห้องเลี้ยงฉลองตอนเย็น บนเวทีจะเน้น Blackdrop สีฟ้าเป็นหลัก ตกแต่งด้วยดอกไม้สดหลากชนิดห้อยๆ หัวลง จึงทำให้การดีไซน์ฉากหลังทั้ง 2 นั้น ยังอยู่ในธีมเดียวกัน แต่ได้ความแตกต่างค่ะ

       งานของเรามี Photo Booth ให้แขกมาถ่ายรูปเล่นด้วยนะคะ ซึ่งก็ไม่คิดว่าจุดนี้จะขายดีมาก(หัวเราะ) และสำหรับในห้องจัดงานช่วงเลี้ยงฉลอง เนื่องด้วยการแพร่ระบาดของโควิด 19 ทำให้เราไม่สามารถจัดเลี้ยงแบบบุฟเฟ่ต์ได้ จึงจัดรูปแบบการนั่งของแขกเป็นแบบ Long Table มีเมนูเป็นอาหารไทยคาวหวาน จัดเสิร์ฟเฉพาะคนแทนค่ะ

มีความสุขทุกพิธีการ ดำเนินงานไม่ซับซ้อน

       เราจัดพิธีหมั้นแบบไทยจีน แบ่งเป็น 2 ช่วงเวลาด้วยกัน โดยตอนเช้าเป็นพิธีหมั้นเน้นแขกผู้ใหญ่เป็นหลักราว 100 ท่าน ซึ่งพิธีการจะเริ่มประมาณ 8:00 น. มีการแห่ขันหมากก่อน พอเจ้าบ่าวผ่านการกั้นประตูเงินประตูทองเพื่อมารับตัวเจ้าสาวแล้ว ก็จะพากันเข้าไปทำพิธีในห้องจัดงาน มอบสินสอด สวมแหวน ยกน้ำชา และตามด้วยรดน้ำสังข์ค่ะ 

       เมื่อพิธีนี้เสร็จแขกทุกท่านก็จะทานอาหารมื้อเที่ยง จากนั้นถึงแยกย้ายกันกลับ เหลือเพียงครอบครัวและเพื่อนเจ้าบ่าวเจ้าสาวที่ไปเปลี่ยนชุดเพื่อแสตนด์บายเข้าสู่พิธีเลี้ยงฉลอง ซึ่งงานช่วงเย็นนี้จะเน้นไปที่แขกเพื่อนๆ บ่าวสาวเสียมากกว่า ซึ่งพอถึงกำหนดการช่วงเย็น เราสองคนก็จะมายืนรอรับแขกกันที่ Blackdrop ถ่ายภาพ ส่วนแขกที่มาลงทะเบียนจะได้รับของชำร่วยเป็นเทียนหอมอโรมาสองกลิ่น โดยจะมรีมีกิมมิคเพิ่มเติมสำหรับแขกคนพิเศษ

เป็นการแจกสติกเกอร์ไลน์ที่วาดเองให้เป็นของขวัญด้วยค่ะ

       เมื่อถึงเวลาช่วงพิธีจะมีการเปิดวิดีโองานเช้าก่อน จบแล้วเราสองคนถึงเปิดตัวเดินผ่านเพื่อนบ่าวสาวที่ขนาบข้างพร้อมยิงเปเปอร์ชู้ตขึ้นไปบนเวที จากนั้นจะเป็นการเปิดวิดีโอพรีเซนเทชั่นที่เล่าเรื่องราวของเราสองคน แล้วถึงเป็นช่วงตัดเค้กที่วางไว้ตรงกลางห้องจัดงาน ตรงนี้พิเศษที่เราครีเอทวิธีตัดเค้กขึ้นมาใหม่ คือการใช้วิธีราดไวท์ช็อกโกแลตซอสสีฟ้าชมพูแทนการใช้มีดตัดเค้กค่ะ และหลังจบช่วงนี้ก็จะโยนดอกไม้เป็นอันจบพิธีการ

ประทับใจที่มีโมเมนต์อบอุ่นให้จดจำ

       งานนี้เราประทับใจหลายอย่างเลย ไม่ว่าจะเป็นตอนที่พี่บอย(เจ้าบ่าว) พูดความในใจ และการที่เขาทำตามสัญญาที่ให้ไว้ คือการที่ทำให้เรามีภาพถ่ายที่มีทั้งคุณพ่อคุณแม่แบบเป็นครอบครัวอยู่ในเฟรมเดียวกัน ซึ่งการกระทำของพี่บอยทำให้เราศรัทธาในความรักมากขึ้น วันนั้นเราซึ้งจนร้องไห้เลยค่ะ เพราะคำสัญญานั้นเกิดขึ้นจริงในวันแต่งงานเรา

       ในส่วนอื่นคงเป็นการจัดงานที่มีจำนวนแขกไม่เยอะไปทำให้ได้งานที่มีความอบอุ่น มองไปทางไหนก็มีแต่คนรัก ที่สำคัญต้องขอบคุณซัพพลายเออร์ทุกทีมและแขกทุกท่านด้วยค่ะ ที่เห็นความสำคัญของเรา ยอมเดินทางมาร่วมงาน 

แนะนำบ่าวสาว

เลือกชุดเจ้าสาวต้องชัดเจน ไม่โลเล : ต้องรู้ใจตัวเองไปเลยว่าชอบแบบไหน โดยควรหา Reference ที่ชัดเจน แล้วตอนบอกช่างก็ควรสื่อสารให้เข้าใจตรงกันจริงๆ เพราะชุดเจ้าสาวใช้เวลาตัดที 4-5 เดือน หากไม่ได้ดั่งใจ เวลาแก้ไขชุดจะลำบาก อีกอย่างควรเลือกชุดที่เหมาะกับตัวตนของเรา เพื่อเสริมให้เจ้าสาวสวยโดดเด่นกว่าชุด ไม่ใช่ชุดเด่นกว่าเจ้าสาวค่ะ

แพลนเนอร์ดีจะมีประโยชน์กับเรามากที่สุด : เราควรเลือกเจ้าที่มีความเป็นมืออาชีพและผ่านประสบการณ์มามาก เพราะแพลนเนอร์จะคอยช่วยในยามที่บ่าวสาวมีความเห็นไม่ตรงกัน เขาจะช่วยหาจุดร่วมตรงกลางหรือหาข้อสรุปที่ทำให้บ่าวสาวเห็นพ้องต้องกัน จนทำให้งานแต่ละงานจบได้ไวมากขึ้นค่ะ

สร้างสรรค์งานแต่งให้เหมือนหนังสักเรื่อง : การแต่งงานเสมือนหนังเรื่องหนึ่ง ฉะนั้นอยากให้มีการวางคอนเซ็ปต์หรือโครงเรื่องของงานให้ชัดเจน แล้วการจัดงานจะง่ายขึ้นมาก อย่างเราเองก็ใช้วิธีการเล่าเรื่องราวของคู่บ่าวสาวผ่าน Character และสีที่สอดคล้องกับตัวการ์ตูนในงาน พอจัดงานเวลาเดินเรื่องจะดูไม่สับสน ไม่หลงประเด็นค่ะ

Cr.Photo by Takoyakiphoto / UNSEEN WEDDING PHOTO